4P [ chan hun xing x jongdae ]
“เฮ้ๆ”
พวกเธอทุกคนปีใหม่นี้มีแพลนไปเคาท์ดาวน์ที่ไหนหรือเปล่า?
ซอนมีหัวหน้าห้องใช้มือเคาะกับโต๊ะเรียกความสนใจจากเพื่อนๆ
ทุกคนในชั้นเรียนต่างก็รู้ดีว่าซอนมีนอกจากจะเป็นหัวหน้าห้องแล้วเทอยังเป็นสาวสวยท็อปเท็นของโรงเรียนอีกด้วย
เครื่องหน้าสวย ผมยาวจนเลยกลางหลัง เอวคอด
ขนาดแค่นั่งพิงโต๊ะเรียนเธอยังดูสวยและเซ็กซี่ไปพร้อมกัน
เรื่องที่ซอนมีถามกลายเป็นจุดสนใจของเพื่อนในชั้นเรียน
เพราะอีกไม่กี่วันก็จะเข้าสู่การเริ่มต้นของปีใหม่หลายๆคนคงมีแพลนไปเที่ยวกันบ้างแล้ว
แต่คงยกไว้คนนึง
เพราะไม่ว่าจะกี่ปีคิมจงแดคนนี้ก็ไม่เคยได้ออกไปเที่ยวเล่นไหนเลยยกเว้นนอนโง่ๆอยู่บนเตียงปล่อยให้เวลาผ่านข้ามปีไปเฉยๆ
“ถ้าใครยังไม่มีแพลนฉันแนะนำว่าไปเคาท์ดาวน์ที่แทจอนกัน
ฉันมีบ้านอยู่ที่นั่นหนึ่งหลังจัดปาร์ตี้ได้สบายๆเลย ทุกคนว่าฟังดูน่าสนุกดีใช่ไหม.....ว่าไงชานยอลเซฮุนนายสองคนสนใจไปหรือเปล่า”
สายตาซอนมีมองไปที่คู่แฝดที่นั่งบนเก้าอี้ของโต๊ะที่ซอนมีใช้สะโพกพิงอยู่
คู่นี้เป็นแฝดที่หน้าตาไม่เหมือนกันเลยสักนิดเดียว
มองผิดไปจากคู่แฝดอื่นๆที่เป็นฝาแฝดกัน แต่ก็เข้าใจแหละเพราะเป็นแฝดคนละฝา
ไข่คนละใบ ไม่ผิดที่จะหน้าตาไม่เหมือนกันคนนึงหน้าเหมือนแม่อีกคนหน้าเหมือนพ่อและถึงจะหน้าตาไม่เหมือนกัน
แต่สิ่งที่แฝดคู่นี้มีเหมือนกันนั่นก็คือความตัวสูง ไหล่กว้าง
ตัวหนาซึ่งเป็นรูปร่างที่ดีแบบดีมาก แถมยังหล่อทั้งคู่อีกด้วย
ไม่แปลกที่ซอนมีจะพุ่งไปที่คู่แฝดเป็นคู่แรกที่ชวนไปงานปาร์ตี้ครั้งนี้
สองแฝดแทบไม่ต้องมองหน้ากันเลย
เพราะชานยอลเป็นคนตอบก่อนและเซฮุนก็ตามแบบที่เหมือนคนใช้พลังจิตคุยกัน
“ไม่อ่ะ....ฉันไม่ว่าง”
“ใช่พวกเราไม่ว่างพึ่งได้เกมส์มาใหม่”
“มันน่าสนใจกว่าปาร์ตี้ใช่ไหมล่ะ”
“ใช่มันน่าสนใจกว่างานปาร์ตี้นะ”
นี่ล่ะมั้งความสามารถพิเศษของคนเป็นแฝด
ซอนมีทำหน้าผิดหวังหลังจากได้รับคำปฏิเสธ
แต่เธอก็เปลี่ยนเป็นยิ้มหวานเมื่อหันไปพูดกับใครอีกคนที่นั่งอยู่หลังห้อง
“แล้วนายล่ะอี้ชิงสนใจไหมมันน่าสนุกนะ”
เพื่อนชาวจีนผิวขาวขยับแว่นกลมที่สวมอยู่ขึ้นเล็กน้อยก่อนจะตอบด้วยน้ำเสียงเนิบๆที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว
“ขอโทษนะฉันต้องเรียนพิเศษช่วงวันหยุดน่ะ”
“แต่นี่ปีใหม่นะ
นายไม่คิดจะพักเรื่องเรียนพิเศษเลยเหรอ” ซอนมีค่อนข้างหงุดหงิด
แต่ก็พยายามพูดโน้มน้าวให้อี้ชิงยอมไปร่วมฉลองด้วยให้ได้
“ขอโทษจริงๆปีหน้าก็เข้ามหาวิทยาลัยแล้วฉันยังไม่เก่งเกาหลีเลย”
มันก็จริงอี้ชิงพึ่งย้ายมาจากจีนเมื่อ2ปีก่อนถึงตอนนี้ภาษาจะดีมากแล้วแต่มันก็ยังฟังเพี้ยนๆอยู่บ้าง
เพื่อนชาวจีนคนนี้ทั้งๆที่ภายนอกดูนุ่มนิ่ม
ดูใจดี แต่แปลกที่เหมือนมีเสน่ห์บางอย่างที่มากพอๆกับสองแฝดเลยด้วยซ้ำ
สายตาคู่นั้นที่หลบอยู่ภายใต้แว่นกลมๆมันดูน่าค้นหาอย่างประหลาด
ความน่ากลัวที่ถูกซ่อนใต้ลักยิ้มข้างแก้มแสนน่ารักนั่นบอกเลยว่ายากจะคาดเดา
ในเมื่อหนุ่มฮ็อตไม่มีใครตกลงไปด้วยเลยสักคนซอนมีจึงมีสีหน้าผิดหวังอย่างเห็นได้ชัด
จงแดที่นั่งฟังมาตั้งแต่ต้นจึงได้โอกาสอยู่ยกมือขึ้นแล้วพูด
“ฉันสนใจ....ฉันอยากไป....ฉันว่ามันต้องน่าสนุกอย่างที่เธอบอกแน่ๆซอนมี”
ซอนมีเบ้หน้าก่อนจะกอดอกกรอกตาแล้วพูดแบบไม่ไว้หน้าเพื่อนอย่างจงแดเลยสักนิด
“นายซื่อหรือโง่กันแน่จงแด
ที่ฉันชวนเพราะฉันต้องการให้สามหนุ่มนั่นไปต่างหาก
แต่นี่ไม่มีใครไปฉันจะจัดงานเปิดบ้านทำไม”
“อ้าวก็นึกว่าถามทุกคน”จงแดเกาหัวเบาๆบึนปากขัดใจคยองซูที่นั่งอยู่ข้างๆก้มหน้ากระซิบพูดด้วย
“นายโง่จริงๆนั่นแหละจงแด”
“ไหงงั้นล่ะ
ก็เธอถามทุกคนนี่หรือนายไม่ได้ยิน เพื่อนก็มีตั้งหลายคนทำไมต้องเจาะจงกันเล่า”
ยังไม่วายจงแดเถียงด้วยความไม่เข้าใจมันก็เพื่อนกันทั้งหมดทำไมต้องเลือกด้วย
“นายนี่มันซื่อจริงๆคิดว่ายัยซอนมีหวังแค่ไปเลี้ยงหรือไง
ถ้าสามคนนั้นไปยัยนั่นต้องเลือกจับเอาสักคนแน่
นายก็รู้นี่ว่าสามคนนั้นตัวท็อประดับไหน”
จงแดตกใจตาโตกับความหมายที่คยองซูพูด
ก็เข้าใจว่าสามคนนั้นขึ้นชื่อเรื่องหน้าตาและเป็นที่ต้องการของสาวๆ
แต่เราอายุยังไม่ถึง20กันเลยทำไมถึงเอาแต่คิดถึงเรื่องแบบนั้นทั้งๆที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะด้วยซ้ำแต่ถึงยังไงมันก็ไม่ยุติธรรมกับเพื่อนคนอื่นๆอยู่ดีก็ชวนแล้วนี่
“อีกอย่างนายจะไปทำไม
ทุกปีชวนไปไหนก็ไม่เคยไปนอนหมักอยู่แต่ในห้องจนนึกว่าจะดองตัวเองเป็นปลาเค็มไปแล้ว”
ดูคำเปรียบเปรยที่คยองซูใช้พูดสิ
ใครจะเป็นบ้าดองตัวเองเป็นปลาเค็มในวันปีใหม่กันเล่า
ที่จงแดไม่ยอมออกจากห้องก็เพราะจงอินน้องชายจอมบ้าอำนาจต่างหาก
ทั้งๆที่จงแดเป็นพี่นะแต่เด็กนั่นก็ชอบใช้ความตัวโตกว่ามาบังคับและกดขี่ใช้แรงงานจงแดอย่างกับทาสในวันหยุดตลอด
จงแดเลยหนีปัญหาด้วยการขังตัวเองไว้ซะ จะได้ไม่ต้องตกเป็นเบี้ยล่างให้น้องชายตัวเองก็แค่นั้นเองแต่ปีนี้มีที่เที่ยวมันผิดหรือไงที่จงแดไม่อยากทำตัวนอนโง่ๆอยู่บนเตียงเหมือนทุกปีจงแดยังเถียงกับคยองซูไม่จบด้วยซ้ำเพื่อนร่วมชั้นผู้เป็นใจหลักก็เกิดเปลี่ยนใจขึ้นมา
“ถ้าจงแดไปฉันว่าแพลนนี้เริ่มน่าสนใจขึ้นมาแล้วล่ะ”
“ใช่ฟังดูน่าสนใจขึ้นมาทันตาเลย”
“ฉันว่าฉันเรียนพิเศษเยอะแล้วตามที่เธอว่าจริงๆไปเที่ยวบ้างก็คงดี”
“พวกนายเปลี่ยนใจกันแล้วใช่ไหม”
ซอนมีแทบจะกระโดดลุกขึ้นเต้นหลังจากสามหนุ่มเกิดเปลี่ยนใจ
“อือแต่....จงแดต้องไปด้วยนะ”
ชานยอลใช้นิ้วชี้มาที่จงแด
สายตาทุกคนก็หันมองตาม
แต่มันจะไม่น่ากลัวมากถ้าไม่มีสายตาซอนมีที่พุ่งมาแบบกดดันอีกที
“วันที่30เจอกันที่สถานีxxนะจงแดฉันหวังว่านายจะไปเคาท์ดาวน์กับพวกเรา...นะ”
แล้วทำไมทุกความหวังถึงได้ตกมาอยู่ที่จงแดได้เนี่ยทั้งๆที่ตอนแรกจะไม่ให้ไปด้วยด้วยซ้ำ
คิดแล้วก็มองไปที่สามหนุ่มตัวเปลี่ยนสถานการณ์แล้วก็ต้องถอนหายใจมองกันด้วยสายตาแบบนั้นมันคืออะไร?
ห๊ะ…ชานยอล...เซฮุน...อี้ชิง
.....................................
ปีนี้เป็นปีแรกเลยที่จงแดได้มีโอกาสมาเคาท์ดาวน์ไกลถึงงแทจอน
เพื่อนในชั้นก็มาด้วยกันหลายคนและหนึ่งในนั้นก็มีคยองซูเพื่อนสนิทของจงแดด้วย นี่ก็ไม่อยากจะเม้าท์เลยว่าเจ้าเด็กจงอินทำหน้ายังไงตอนที่รู้ว่าจงแดมาเที่ยว
หึหึ....เด็กนั่นแทบจะเกาะขาขอมาด้วย
“พวกนายเอาของไปเก็บที่ห้องนั้นนะมันเป็นโถงกว้างนอนได้หลายคน”
ซอนมีชี้ไปที่ทางเดินเพื่อบอกให้พวกเราเอาของไปเก็บและพักที่นั่น
ถึงแม้จะเป็นห้องโล่งๆกว้างๆแต่มันก็สนุกดีนะเหมือนมาทัศนศึกษาเลยเพื่อนๆก็ดูสนุกกันดีและอย่างที่รู้กันว่ามีเพียงแค่สามหนุ่มหล่อที่ได้สิทธิพิเศษตั้งแต่ครั้งแรกนั้น
ได้รับห้องนอนชั้นดีที่อยู่ชั้นสองจากเจ้าของบ้าน ถึงจะเหม็นความได้สิทธิ์ดีกว่า
แต่จงแดก็เฉยๆเพราะจุดประสงค์ของการขอมาด้วยครั้งนี้ก็คือการหนีจากจงอินต่างหาก
“ยิ้มหน้าบานเชียวนะ
นี่นายกลัวจงอินมากขนาดนั้นเลยเหรอ” คยองซูถามด้วยความสงสัย
มือก็หยิบเอาของใช้บางอย่างออกมาจากกระเป๋า
“เปล่าซะหน่อยฉันก็แค่อยากมาเที่ยว”
“เหรอ”
“ใช่สิ
วุ้ยถามมากจัง รีบจัดของเถอะแล้วเราออกไปเดินเล่นดูบรรยากาศข้างนอกกัน”
จงแดรีบเปลี่ยนเรื่องพูดก่อนจะโดนจี้ใจดำอีก ถ้าคยองซูเคยโดนเด็กนั่นจับทุ่มสักครั้งเดี๋ยวก็จะรู้สึกเอง(เรื่องนี้เกิดเมื่อจงแด10ขวบและจงอิน8ขวบ)
งานปาร์ตี้เลี้ยงฉลองจัดขึ้นแบบง่ายๆในห้องรับแขก โดยมีเครื่องดื่ม
ขนมขบเคี้ยว และของว่างอีกไม่กี่อย่าง เพื่อนทุกคนช่วยกันตกแต่งให้ห้องแสนธรรมดากลายเป็นสถานที่ปาร์ตี้ในเวลาไม่กี่ชั่วโมง
ซอนมีเปิดเพลงจังหวะหนักๆเข้ากับไฟวิบวับๆที่ใช้ตกแต่ง แค่เริ่มปาร์ตี้ไม่กี่ชั่วโมงเพื่อนบางคนที่คออ่อนก็เริ่มตาหวานกันไปบ้างแล้ว
จงแดมองดูบรรยากาศรอบๆพร้อมกับจิบน้ำอัดลมไปด้วย มาฉลองกับเพื่อนๆแบบนี้ก็สนุกดีเหมือนกัน ถึงแม้จะไม่ดื่มแบบคนอื่นแต่จงแดคิดว่ามันก็โอเคกว่าการนอนโง่ๆอยู่บนเตียงเหมือนทุกปี
ตอนนี้ไม่รู้ว่าคยองซูไปดิ้นอยู่ตรงไหนแล้วทั้งที่เมื่อสักครู่จงแดยังเห็นเต้นตรงโซฟาอยู่เลย
แต่ช่างเถอะปล่อยให้สนุกบ้าง จงแดไม่เข้าใจเลยทั้งๆที่คยองซูเป็นคนตลกแท้ๆแต่ทำไมชอบทำหน้านิ่งๆให้เพื่อนกลัวนัก
พอนั่งไปนานๆก็ชักจะอยากเข้าห้องน้ำ
จงแดจำได้ว่าถ้าเดินตรงไปแล้วเลี้ยวซ้ายก็จะเจอกับห้องน้ำที่อยู่ติดกับห้องครัว จงแดวางแก้วและขนมในมือไว้บนโต๊ะก่อนจะเดินไปตามทางที่ตัวเองเข้าใจว่าจำได้ ระหว่างที่เดินไปเรื่อยๆเสียงเพลงที่ซอนมีเปิดก็ยังดังตามมา จงแดชักจะกลัวอยู่นิดๆเพราะตามทางเดินแทบจะไม่ได้เปิดไฟเลยด้วยซ้ำ
แม่บ้านที่มาทำอาหารและของว่างให้ก็กลับกันไปหมดแล้ว ที่บ้านหลังนี้เหลือแค่พวกเราเด็กๆที่มาฉลองกันเท่านั้น
“คุณป้าแม่บ้านก็น่าจะเปิดไฟไว้ให้หน่อย”
จงแดบ่นๆก่อนจะรีบเดินเร็วๆเข้าห้องน้ำหลังจากที่ระแวงอยู่ก่อนหน้านั้น
เข้าไปทำธุระเสร็จเรียบร้อยก็ล้างมือเปิดประตูเตรียมปิดไฟ แต่ต้องตกใจผละถอยหลังเมื่อเปิดประตูแล้วเจอกับสองคู่แฝดที่ยืนทำหน้านิ่งอยู่ตรงหน้า
“จะเข้าห้องน้ำเหรอ....พวกนายขยับหน่อยได้ไหมฉันออกไปไม่ได้”
จงแดพูดไปพร้อมกับขยับตัวเพื่อจะหาทางออกไปจากห้องน้ำนี้
แต่ดูเหมือนว่าสองแฝดจะไม่ได้ยิน ถึงได้ทำหน้านิ่งไม่ยอมขยับ
“ฉันบอกว่าให้หลบไปหน่อยฉันออกไม่ได้”
จงแดเพิ่มเสียงให้ดังขึ้นกว่าเสียงดนตรีที่เปิดอยู่ แต่ผลตอบรับก็เหมือนเดิม นอกจากจะไม่ยอมขยับไปไหนแล้วชานยอลยังใช้มือยาวๆของตัวเองมาค้ำยันประตูกักไม่ให้จงแดมีทางเลือกออกไปอีก
เซฮุนที่ยืนอยู่ข้างๆก็ใช้หลังพิงกับกรอบประตู
“ถ้าอยากออกไปก็ต้องตกลงกับเราก่อน”
“ตกลงอะไร”
“เซฮุนพูดไป”
ชานยอลหันไปพยักหน้ากวนๆกับเซฮุนที่ยืนยิ้มมุมปากเท่ห์ๆอยู่
แต่ขอบอกไว้เลยว่าตอนนี้จงแดไม่ได้รู้สึกชื่นชมกับความหล่อหรอกนะ
มันออกจะน่ากลัวไปด้วยซ้ำเพราะสองคนนี้ตัวก็โตกว่าจงแดมากถ้าเกิดมีเรื่องกันขึ้นมาจงแดคงได้เละแน่
“อา....นี่มันเขินจริงๆนะ
แต่เอาเถอะถ้านายให้ฉันพูดฉันก็จะพูด”
พูดเรื่องบ้าอะไรกัน?
“พวกเราสนใจนาย”
“........................” ว้อด OoO
“ใช้ไม่ได้เลยเซฮุนพูดอะไรเนี่ย”
“...................”
คราวนี้จงแดหันไปมองหน้าแฝดผู้พี่อย่างชานยอลที่ขมวดคิ้วทำหน้าดุใส่น้องชายตัวเอง
ซึ่งนั่นทำให้จงแดรู้สึกสบายใจขึ้นมาเปราะหนึ่งว่าสิ่งที่ได้ยินไปเมื่อสักครู่คงแค่ฟังเพี้ยนไป
“รวบรัดแบบนั้นนางฟ้าก็ตกใจแย่สิ”
ว้อด!!! อะไรอีกเนี่ย นางฟ้าอะไร๊!
“งั้นนายก็พูดสิ”
“เห้ออออ
ในเมื่อเซฮุนพูดไปแล้วฉันจะอธิบายให้มันยาวขึ้นแล้วกันนะจงแด ที่พวกเราสองคนยอมมางานนี้ก็เพราะว่านายมาด้วย
และฉันกับเซฮุนก็ปรึกษากันแล้วว่ามันคงถึงเวลาสักทีที่เราจะสารภาพกับนาย
ว่าพวกเราสองคนสนใจนาย....มากๆ”
“บะ....บ้าไปแล้ว หึหึ ล้อเล่นใช่ไหม
ฉันจะถือว่าไม่ได้ยินเรื่องที่นายสองคนพูดแล้วกันนะ”
บอกตามตรงจงแดโคตรตกใจกับคำสารภาพนี้เลย
แล้วมันจะเป็นไปได้ไงในเมื่อพวกเราไม่เคยพูดคุยกันมากกว่าสามประโยคเลยด้วยซ้ำในแต่ละวัน
แล้วสองคนนี้จะมาสนใจจงแดได้ยังไง
มันคงเป็นเรื่องล้อเล่นแน่ๆ
แล้วยิ่งจงแดตกใจก็ยิ่งทำตัวลนลานเดินเลี่ยงไปทางไหนก็มีคนตัวยักษ์ยืนขวางอยู่ พอหาทางออกไม่ได้จงแดจึงใช้ทางเลือกสุดท้ายนั่นก็คือผลักร่างยักษ์ของสองคนนี้ให้ออกห่าง
แต่ให้ตายเถอะมันเหมือนเป็นการเปิดทางให้สองคนนี้ลวนลามตัวเอง
มือที่ใช้ผลักแผ่นอกหนาถูกรวบไว้ข้างหนึ่งแล้วรั้งให้ตัวจงแดเข้าหา
มันรวดเร็วมากเมื่อริมฝีปากหนาของชานยอลประกบจูบลงมาแบบไม่ให้ตั้งตัว
พอจงแดขยับตัวถอยแขนยาวๆอีกข้างของชานยอลก็รวบเอวกอดรัดตัวเข้าไปอีก
จงแดทั้งตกใจทั้งกลัว แต่ก็ไม่กล้าร้องออกมา
สุดท้ายจึงต้องจำยอมให้ชานยอลเอาเปรียบจนเจ้าตัวพอใจแล้วผละออกไปเอง มันอดไม่ได้ที่จะรู้สึกคันยิบๆในอกหลังจากถูกจูบไปแล้ว และนี่ก็เป็นจูบแรกของจงแดเลยด้วย ถึงจะน่าเจ็บใจแต่ก็ต้องยอมรับว่ารู้สึกดี
“เหยๆพี่ชายนายจูบนางฟ้าก่อนฉันได้ยังไง
ไหนเราตกลงกันแล้วว่านายจะให้ฉันก่อน”
“อย่าพึ่งมาโวยวายตอนนี้ได้ไหมเซฮุน
เคลียร์ตรงหน้าก่อนเถอะ”
คำพูดของสองพี่น้องฝาแฝดเหมือนจะไม่เข้าหัวจงแดเลยสักนิด
จูบเมื่อกี๊มันทำให้จงแดเบลอไปแล้ว ก็รู้ตัวนะว่าถูกจูงมือให้เดินตามทั้งคู่ไป
แต่เหนือสิ่งอื่นใดในตอนนี้จงแดกลับคิดว่ามันจะจริงเหรอที่คนอย่างชานยอลและเซฮุนจะมา....สนใจตัวเอง
“พวกนายทำอะไรกัน”
แต่เหมือนว่าเสียงของคนที่ทักจะทำให้จงแดได้สติหลุดออกมาจากความคิดนั้น
พอเห็นหน้าว่าเป็นใครก็ยิ่งตกใจเบียดตัวเข้าไปหลบอยู่หลังเซฮุน ทั้งๆที่มือก็จับกับชานยอล
(โอ๊ย!
ถ้าคิดให้ดีมันควรจะหลบหลังชานยอลไหม)จะขยับตัวตอนนี้ก็ไม่ได้Y^Y
“พวกเราตกลงคบกับจงแดแล้ว”
“หืม?”
จงแดหลบสายตาที่อี้ชิงใช้มองมา
วันนี้มันดูต่างออกไปจากทุกวันมากถึงแม้จะมีแว่นกลมๆกั้นอยู่ก็ตาม
เพื่อนชาวจีนถอนหายใจแล้วใช้มือล้วงกระเป๋ากางเกง
สายตาที่ใช้จ้องมองก็ยังไม่ละไปจากจงแดเลย
“ฉันไม่เชื่อ”
“ก็เรื่องของนาย...ช่วยหลีกทางให้ด้วย”
“นายคบกับสองคนนี้จริงๆเหรอ”
อี้ชิงเปลี่ยนจากพูดกับคู่แฝดมาเป็นพูดกับจงแดแทน
แล้วสายตาคู่นั้นจะจ้องอะไรนักหนา จงแดเริ่มจะกลัวแล้วนะ ทำไมต้องทำหน้าดุ แล้วก็เสียงเข้มใส่ด้วย
ไม่เข้าใจเลย
“ก็พวกเราบอกไปแล้วไง นายจะไปถามจงแดอีกทำไม”
“ฉันต้องการความชัวร์
เพราะฉันเองก็มีสิทธิ์ถ้าจงแดยังไม่ได้ตกลงคบกับพวกนาย”
ว้อดดดดดดดดดดด นี่มันคือเรื่องน่าอัศจรรย์ส่งท้ายปีใช่ไหม
ที่จู่ๆสามหนุ่มฮ็อตจะมาสารภาพตรงกันในวันนี้และที่สำคัญก็คือสารภาพกับคนคนเดียว
บ้าไปแล้ว
“ฉันบอกนายแล้ว”
“เงียบน่าเซฮุน.....แล้วนายจะทำยังไงถ้าฉันบอกว่าฉันก็ไม่ยอม”
จงแดเห็นอี้ชิงมองมาที่พวกเราสักพักก่อนจะตอบอออกมา
“ถ้าให้จงแดเลือก ฉันหรือไม่ก็พวกนายคงไม่อยากยอมรับกับผลของมันหรอกใช่ไหม
“ก็ถูก/ถูก”
“ถ้าอย่างนั้น......”
“ก็คบกันทั้งสี่คนเลย” (สามพลังเสียง)
“ห๊ะ! จะบ้าเหรอ? ฉันไม่เอาด้วยหรอกนะ
อีกอย่างพวกนายเป็นบ้าหรือไง นี่ล้อเล่นใช่ไหม เรื่องอำส่งท้ายปีเก่าอะไรแบบนี้สินะ..ใช่ไหม”
ใครก็ได้บอกจงแดหน่อยเถอะว่าสถานการณ์ตอนนี้มันคืออะไร
คนพวกนี้ทำไมพูดเองเออเองแบบนั้นล่ะ แล้วมีคนบ้าที่ไหนคบเป็นแฟนกันถึงสี่คน
นี่มันคือเรื่องตลกส่งท้ายชัดๆ
...................................................................
บ้า เรื่องนี้มันบ้า
และไม่อยากจะเชื่อเลยว่าจงแดจะบ้าจี้ตามสามคนนี้ด้วย คิดกลับตัวตอนนี้ก็คงไม่ทันแล้วเหมือนกัน
บรรยากาศในห้องนอนที่มีเพียงแค่ความเงียบและผู้ชายสี่คนมันจะไม่พิลึกเลยถ้าพวกเราไม่ได้มีจุดประสงค์ที่ต่างไปจากการนอน
จงแดพยายามขยับตัวไปยืนตรงมุมที่คิดว่าโอเคที่สุด โดยมีสายตาอีกสามคนมองตามมาด้วย
“จงแดนายจะไม่รับความรู้สึกของพวกเราจริงๆเหรอ?
นายจะปฏิเสธพวกเราสามคนจริงๆใช่ไหม”
จงแดเม้มปากมองไปที่ชานยอล
เซฮุนและอี้ชิงที่อยู่ฝั่งตรงข้าม ปฏิเสธไม่ได้หรอกว่าสามคนนี้หน้าตาดี
คุณสมบัติก็ดี ถึงมันจะแปลกที่เป็นแฟนกับผู้ชายจงแดก็พอรับได้
แต่จะให้เป็นแฟนกับทุกคนแบบนี้จงแดว่ามัน......
“หรือนายจะเลือกพวกเราล่ะ คนใดคนหนึ่ง”
นี่ก็ยิ่งเครียดกว่าการเหมารวมซะอีก ให้เลือกเนี่ยนะ
ใครจะไปเลือกได้ ทุกคนไม่ใช่ภายนอกดูดีอย่างเดียว
แต่นิสัยก็ยังทำให้เลือกไม่ได้ด้วย อย่างชานยอลเป็นคนอารมณ์ดีอยู่ด้วยคงไม่เศร้าแน่ๆ
เซฮุนถึงจะเป็นคนเงียบๆแต่ก็ให้ความสำคัญกับคนที่สำคัญเสมอ อี้ชิงอาจจะดูลึกลับไปหน่อย
แต่ก็ให้ความรู้สึกอยากค้นหาว่าตัวตนจริงเป็นคนแบบไหน
“เห็นไหมนายก็เลือกไม่ได้
ทางออกก็เหลืออยู่ทางเดียวนั่นก็คือ....คบกับพวกเราสามคน”
“..............................”
เมื่อจงแดได้คำตอบในใจแล้วคงไม่ต้องพูดอะไรเพื่อบอกความคิดออกไปหรอก
ในเมื่อชานยอลเป็นคนสรุปให้หมดแล้วว่าควรเลือกทางไหน
ตอนนี้หัวใจดวงน้อยมันเต้นรัวอยู่ในอก
ถึงจงแดจะอายุยังไม่ถึง20ปีแต่ก็ไม่ใช่เด็กที่จะไม่รู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้นต่อไปหรอกนะ
อยู่ในห้องนอนกับสายตาที่เหมือนจะฉีกกระชากเราทุกเมื่อแบบนี้
เซฮุนจากที่นั่งอยู่บนเตียงก็เดินเข้ามาหาจงแดที่ยืนมุมห้อง
พอยืนเทียบกันจริงๆแล้วจงแดอยู่เพียงแค่ระดับคางของอีกฝ่ายเท่านั้น
และมันก็เหมาะมากๆกับการจุ๊บที่หน้าผาก แล้วตามไปที่แก้มก่อนจะจบที่ริมฝีปาก
จูบของเซฮุนต่างกับชานยอลเพราะมันนุ่มนวลกว่า
ริมฝีปากเล็กๆนั่นค่อยๆละเลียดเล็มกดจูบ สองมือที่โอบจากแผ่นหลังลูบไล้ลงมาที่เอว
กระชับกอดร่างผอมบางของจงแดให้เข้าใกล้มาขึ้นเรื่อยๆ....จงแดควรปล่อยให้มันเกิดขึ้นสินะ
ในระหว่างที่กำลังหลงใหลไปกับรสจูบที่แสนนุ่มนวลของเซฮุนก็มีมืออีกคู่หนึ่งที่ลูบไล้มาตามลำตัวของจงแด
กระดุมเสื้อผูกปลดทีละเม็ดพร้อมๆกับมือคู่นั้นที่ลากไล้ บีบไปตามลำตัว
ถึงความรู้สึกตอนนี้จะเหมือนกับมีปลากหมึกสักตัวมารัดตัวพันกันให้วุ่นแต่จงแดก็คิดว่ามันคงน้อยกว่าฝูงผีเสื้อที่บินว่อนอยู่ในท้องตอนนี้แน่ๆ
“อื้อออออ”
ร่างผอมบางบิดตัวงอคุ้งเมื่อยอดอกถูกขยี้จากสองนิ้วที่บีบมันจนแข็งไปแล้วเรียบร้อย
สองขาอ่อนเปลี้ยจนแทบจะยืนไม่คงที่จนต้องวาดแขนโอบกอดรอบคอของเซฮุนที่กำลังบรรจงจูบตามลำคอไล่ลงไปตามหน้าอกเอาไว้ ก่อนจะค่อยๆย่างก้าวเดินจนกระทั่งแผ่นหลังสัมผัสกับความนุ่มของเตียงนอน
สายตาจงแดมันพล่าเลือนไปหมดใบหน้าของเซฮุนตอนนี้เลือนรางราวกับภาพในความฝัน
ความเย็นวูบที่ช่วงล่างทำให้จงแดขยับขาชิดบิดเบียดตัวนอนตะแคง
สองมือก็ละจากลำคอเซฮุนลงมาปิดส่วนอ่อนไหว แต่มันก็ถูกจับออกจากมือของใครอีกคน
“ชานยอลลลล”
“อย่าเรียกกันแบบนั้นสินางฟ้า
รู้ไหมมันทำให้ฉันอยากขยี้นาย”
ผู้ชายที่จับมือจงแดอยู่ตอนนี้คือชานยอลแฝดผู้พี่ของเซฮุนนั่นเอง
ชานยอลยิ้มมุมปากยกมือข้างที่จับมือจงแดไว้กดริมฝีปากจูบที่มือนั้น
การกระทำที่เพียงแค่เล็กน้อยนี้แต่มันกลับทำให้จงแดหน้าร้อนขึ้นมาทันที
“มาอย่างหล่อเลยนะ”
เซฮุนพูดเย้าพี่ชายตัวเองหลังจากลุกขึ้นนั่ง
เขินจากชานยอลแล้วจงแดยังต้องมาเขินกับเซฮุนที่เอาแต่จ้องเรียวขาจนต้องพยายามหนีบเอาไว้ พอยิ่งเขินก็ยิ่งถูกใจเซฮุนเพราะจงแดได้ยินหัวเราะในลำคอเบาๆ
จากนั้นเซฮุนก็จับขาจงแดชันเข่าขึ้นมาแล้วแยกออกกว้าง
เผยให้เห็นทุกสัดส่วนแบบไม่มีที่ปิด
จงแดทั้งอายทั้งเขินผสมปนเปกันไปหมดไม่กล้ามองหน้าเซฮุนกับชานยอลจนต้องหาที่ให้สายตาไปจดจ่อ
แต่ดันไปเจอกับสายตาอีกคู่หนึ่งที่มองผ่านความมืดตอบกลับมาในมุมที่เจ้าตัวนั่งอยู่ เป็นดวงตาคู่ที่จงแดไม่เคยอ่านความหมายออกผ่านแว่นกลมๆ
“อี้ชิงงงง”
“อย่าเรียกคนอื่นตลอดเวลาสิจงแดฉันจะงอนแล้วนะ”
น้ำเสียงกระเง้ากระงอดจากเซฮุนทำให้จงแดละสายตาจากอี้ชิงกลับมามองที่เซฮุนอีกครั้ง
ถึงเซฮุนจะทำหน้างอคล้ายกับงอนหากแต่ว่าสายตากลับมีแววซุกซนมากกว่า จงแดขยับตัวลุกขึ้นนั่งใช้หลังมือลูบไล้ใบหน้าเรียวเบาๆแล้วยิ้มหวาน
เซฮุนโน้มตัวเข้ามาใกล้พร้อมกับจับขาที่ชันเข่าอยู่แล้วออกแรงดึงให้ตัวจงแดขยับเข้าไปใกล้กดจูบที่แสนนุ่มนวลนั้นอีกครั้ง คราวนี้จงแดรับรู้ถึงความอุ่นของแผ่นอกที่ซ้อนอยู่ทางด้านหลังพร้อมกับสองมือที่ลูบไล้ตามร่างกายอีกครั้ง
แบบนี้สินะที่เขาเรียกว่าเนื้อแบบเนื้อ
เซฮุนผละริมฝีปากไล่จูบลงไปลำคอ ไหล่ลาด แผ่นอก
จนมากถึงเรียวขา
สองขาจงแดแยกออกกว้างเมื่อริมฝีปากสีชมพูกดจูบที่เนื้อด้านในจนเป็นรอยสีจางๆ
ความรู้สึกแปลกใหม่ทำให้จงแดเกร็งตัวพยายามขยับหนีแต่ก็เหมือนว่าคนที่ซ้อนทางด้านหลังจะเป็นกำแพงชั้นดีที่จงแดไม่สามารถถอยไปได้มากกว่านี้อีกแล้ว
“อือออ อึก ฮึ”
เมื่อถูกลุกรานมากๆจงแดพิงตัวซบคนที่นั่งซ้อนยู่ทางด้านหลังเต็มที่
ใบหน้าเชิดขึ้นหอบหายใจเข้าลึกๆเสียงครางเล็ดรอดเบาๆ
สองมือจิกผ้าปูที่นอนบ้าง จิกที่ต้นขาตัวเองบ้าง
จนต้องถูกจับเอาไว้แล้วประสานมือเข้าด้วยกันจากคนที่ซ้อนหลังอยู่
“จับมือฉันไว้สิจงแด”
“อื้อออออ”
เมื่อหันหน้าไปจงแดก็ถูกจูบอีกครั้ง
ลิ้นร้อนที่สอดแทรกเข้ามากวาดไล่ต้อนจนจงแดจนต้องจนมุมยินยอมคล้อยตามกับจูบครั้งนี้
ถ้าเซฮุนคือจูบที่นุ่มนวลชานยอลคงเป็นจูบกระชากวิญญาณ
ร่างกายจงแดถูกหยอกล้อไม่ต่างไปจากตุ๊กตาที่ถูกแต่งแต้ม
ความเปียกชิ้นจากลิ้นที่ไล้เลียไปตามเรียวขา ที่ตรงนั้น
หรือแม้แต่นิ้วมือเล็กๆที่กำลังหยอกล้อกับยอดอก
มันช่างเป็นสัมผัสที่ทำให้ทั้งอยากจะดิ้นหนีและอยากจะวิ่งเข้าหา........ความรู้สึกตอนนี้มันคืออะไรนะ
“อ๊ะ...เจ็บ”
เมื่อร่างกายถูกบางสิ่งบางอย่างกดดันเข้ามา ตามธรรมชาติร่างกายก็ต้องต่อต้านอยู่แล้ว
ยิ่งไม่รับก็ยิ่งเจ็บ จงแดยกส้นเท้าขึ้นเพื่อดันสะโพกถดหนี น้ำตาซึม
แต่ดูเหมือนว่าคนทำอย่างเซฮุนจะไม่หยุดและพยายามดันมันเข้ามา จนจงแดเริ่มดิ้น
กลายเป็นชานยอลต้องคอยจูบขมับโอบกอดตัวเอาไว้
“ใจเย็นๆสิเซฮุน ไม่เห็นหรือไงว่าจงแดเจ็บ”
“ก็รู้แต่มันดันไม่เข้า”
น้ำเสียงที่เซฮุนตอบพี่ชายก็ติดจะหงุดหงิดไม่ต่างกัน
ซึ่งคงเกิดการหงุดหงิดตัวเองมากกว่าที่ทำอะไรไม่ได้ดั่งใจ
“นายใช้เจลหรือเปล่า”
“......................”
“ไอ้น้องโง่เอ้ย....มันต้องใช้เจลก่อน
แล้วต้องผ่อนคลายให้จงแดด้วย....เฮ้อละมาทำเป็นขอก่อน”
“บ่นมากน่า”
“อย่าลืมใส่ถุงด้วย”
“เออ!”
มันคงตลกพิลึกที่สองพี่น้องมาเถียงกันในสถานการณ์แบบนี้
จงแดเบ้หน้าเพราะความเจ็บเมื่อสักครู่จนชานยอลต้องคอยเช็ดน้ำตาที่ซึมออกให้
ทั้งจูบทั้งกอดจนจงแดเริ่มโอเค
จากนั้นเซฮุนที่ลุกจากเตียงไปเอาของจำเป็นมาแล้วก็เริ่มบีบเจลลงที่ช่องทาง
ความเย็นของมันทำให้จงแดรู้สึกตื่นเต้นขึ้นมา
จากนั้นก็มีบางสิ่งบางอย่างถูกดันเข้ามาอีกครั้งหากแต่ว่าคราวนี้มันเล็กกว่าและง่ายกว่าครั้งก่อน
“ฮึบ”
แรกเริ่มมันคือสิ่งแปลกใหม่แต่พอยิ่งถูกลุกล้ำเข้ามามากขึ้นเท่าไหร่
มันก็ยิ่งเพิ่มความรู้สึกเสียวซ่านมากขึ้นๆ
ตรงนั้นมันเปียกชุ่มไปด้วยของเหลวหล่อลื่น
สิ่งที่เข้าออกอยู่ตอนนี้เริ่มเร็วและกดย้ำจนต้องร้องออกมา
“อะ...อ๊า”
สิ่งที่สอดใส่อยู่ในตัวถูกถอนออกไปพร้อมกับร่างจงแดที่ถูกจับพลิกตัวให้หันหน้าเข้าหาชานยอล
เอวถูกยกขึ้นเข่าตั้งฉากอยู่ในท่าคลาน
“เดี๋ยวก็จะรู้สึกดี”
จงแดพยักหน้าพร้อมกับเงยหน้ารับจูบจากชานยอล
ตัวของจงแดถูกเซฮุนโอบกอดจากทางด้านหลังความนุ่มที่หัวไล่เกิดจากริมฝีปากของเซฮุนที่จูบเบาๆ
ไม่นานความเจ็บก็เริ่มต้นขึ้นเมื่อเซฮุนสอดใส่แท่งเนื้อเข้ามา
“อ๊ะ....อื้อออ”
ความเจ็บแปรเปลี่ยนเป็นความจุก ความอึดอัด
สิ่งที่ใหญ่กว่านิ้วที่ใช้ผ่อนคลายอยู่ภายในตัวตอนนี้
บรรยากาศในห้องดูอบอ้าวขึ้นทันตา เม็ดเหงื่อผุดตามร่างกาย เสียงครางต่ำๆของเซฮุนอยู่ใกล้ๆหู
พร้อมกับลมหายใจร้อนๆที่พัดอยู่แถวๆแก้ม
เซฮุนแช่ความอึดอัดนี้เอาไว้สักพักก่อนจะเริ่มขยับตัว
เสียงเนื้อกระทบกันดังขึ้นพร้อมๆกับเสียงของเหลวที่เป็นตัวหล่อลื่นชั้นดี ร่างกายจงแดขยับไปตามจังหวะกระทั้นเข้าใส่เหล่านั้น
มันทั้งจุกทั้งเสียวจนแยกไม่ออกว่าสิ่งไหนอะไรมากกว่ากัน
“ฮื่ออออ ดี..ดีมาก”
“ฮึบ...อึก....อะ..อ๊า”
จงแดสะบัดหน้าไปมาเมื่อความเสียวมันพุ่งจนแทบอยากจะปลดปล่อย เข่าที่ตั้งชันกับที่นอนก็แทบจะหมดแรงทรุดนอนราบกับเตียง แผ่นอกที่เคยชิดกับแผ่นหลังผละออกไป
ก่อนที่มือทั้งสองข้างของเซฮุนจะจับเข้าที่เอวบาง
จากนั้นการกระแทกที่โถมเข้าใส่ก็เร่งเร็วขึ้น
ตอนนี้ใบหน้าของจงแดแทบจะซบอยู่บนตักของชานยอลอยู่แล้ว
มันยิ่งทำให้จงแดเห็นว่าสิ่งที่อยู่ตรงหน้ามันก็พร้อมที่จะใช้งานไม่ต่างไปจากเซฮุนที่ใช้งานมันอยู่
“ทำเป็นไหมจงแด”
“คะ...คือ อะ....”
ชานยอลแทบไม่รอคำตอบด้วยซ้ำจัดการรูดซิปกางเกงแล้วจับเจ้าลูกชายที่พร้อมเต็มที่ออกมา
จับเอาส่วนปลายแตะที่ปากจงแดเพื่อบอกกลายๆว่านายต้องทำมัน จงแดจึงเหลือบสายตามองชานยอลนิดหน่อยก่อนจะยอมอ้าปากใช้ลิ้นให้จากนั้นก็ปล่อยให้ชานยอลดันมันเข้ามา
ความทรมานที่เกิดจากอารมณ์หวามนี้มันช่างหอมหวานชวนให้หลงระเริงเหลือเกิน
ยิ่งถูกกระแทกเข้ามาเร็วขึ้น จงแดก็ยิ่งต้องการมันอีก
ถึงจะใช้ปากไม่เป็นแต่ก็จงแดก็อยากทำให้มันดีที่สุด เพราะเสียงแห่งความสุขสมที่คู่แฝดต่างเสพสุขจากจงแดนั้นมันทำให้หัวใจดวงน้อยๆของจงแดเต้นรัว
พร้อมที่จะหลั่งสารของความสุขออกมา
เมื่อถึงจุดที่ดีที่สุดน้ำสีขาวขุ่นจากตัวของจงแดก็ไหลออกมาหยดเลอะที่นอนสีขาว
ราวกับเตือนว่าความบริสุทธิ์ได้ถูกชิงไปแล้ว
พายุรักสงบลงแล้วเซฮุนถอนกายออกแล้วถอดถุงยางอนามัยทิ้งขยะ จากนั้นก็โน้มตัวทาบทับร่างจงแดก่อนจะสอดแขนทั้งสองข้างรองที่ตัวกอดแล้วอุ้มให้ลุกขึ้นให้นั่งพิงที่แผ่นอกของตัวเองทั้งเซฮุนและจงแดหอบหายใจดังมากเหมือนกับวิ่งมาสักกิโลได้
จงแดปรือตามองคนที่อยู่เบื้องหน้า
เรียวขาถูกจับแยกอีกครั้งโดยเซฮุนที่ซ้อนอยู่ทางด้านหลัง ชานยอลหยิบเอาซองถุงยางมาฉีกและสวมใส่อย่างรวดเร็ว
จากนั้นก็ขยับเข้ามาแล้วสอดใส่ต่อจากเซฮุนที่พึ่งทำเสร็จเลย ใจก็อยากจะบอกว่าพอก่อนแต่ร่างกายมันกลับตอบรับดีเหลือเกิน
ชานยอลเริ่มขยับแบบไม่ต้องรอให้จงแดพร้อม ขนาดของทั้งคู่แทบจะไม่ต่างกันเลย
(เป็นคู่แฝดที่มีอะไรเหมือนกันมากยกเว้นหน้าตา)
แล้วการที่จงแดมองเห็นจังหวะเข้าออกนั้นด้วยตาตัวเองก็ยิ่งทำให้เขินหน้าแดง
มือก็คอยดันหน้าท้องของชานยอลเอาไว้เวลาที่อีกฝ่ายกระแทกเข้ามาแรงเกินจะรับไหว เรื่องเสียงเรื่องภาพไม่ต้องบรรยายให้มากเพราะมันยิ่งกว่าทำกับเซฮุนแฝดน้องซะอีก
สิ่งที่ทำได้คงมีแค่ร้องเท่าทีเสียงตัวเองมีเท่านั้น ไม่นานน้ำสีขาวขุ่นถูกปลดปล่อยอีกครั้ง
แต่ครั้งนี้มันเลอะที่หน้าท้องของจงแดเอง
เมื่อจบกับชานยอลจงแดก็แทบจะปิดตาหลับ ทั้งเหนื่อยและเพลียร่างกายเหมือนถูกใช้พลังงานไปจนหมด
เนื้อตัวก็เลอะและเหนียวมากๆจนอยากจะอาบน้ำนอน
หากแต่ว่าสงครามบนเตียงยังไม่จบเมื่อมีการสอดใส่อีกครั้ง
“อื้อออออ พอแล้ว...เหนื่อย”
สองมือเล็กพยายามดันเอวที่สอดใส่แท่งเนื้อเข้ามาอีกรอบแต่ก็ห้ามไม่ได้เมื่อแท่งเนื้อนั้นถูกดันเข้ามาจนสุด
จงแดยกมือขึ้นตีที่แผ่นอกนั้นงอแงว่าไม่อยากทำ
“บอกว่าไม่เอาไง...ง่วงแล้วจะนอน”
“ครั้งสุดท้ายนะจงแด ส่งท้ายปีไง”
“ก็ได้ไปแล้วไง!”
จงแดยังคงงอแงตีที่แผ่นอกชานยอลอีกครั้ง
แต่สุดท้ายจงแดก็แพ้อยู่ดี
บางทีจะโทษอีกฝ่ายก็ไม่ได้หรอกตัวจงแดเองก็ตอบสนองทุกครั้งเวลาที่ถูกกระทำ
“ครั้งสุดท้ายแล้วนะ”
“โอเค/ครับ”
ทำไมเสียงตอบรับสองคนล่ะ OoO !!!
สมองยังไม่ทันประมวลผลอะไรด้วยซ้ำแท่งเนื้อของเซฮุนที่เริ่มกดเข้ามาในตัว
เป็นคำตอบชั้นดีว่าทำไมถึงตอบรับสองคน.....รู้ว่าเป็นฝาแฝด
อะไรหลายๆอย่างก็เหมือนๆกัน แต่ก็ไม่จำเป็นที่ต้องทำพร้อมกันมั้ย?
“อ๊า”
จงแดสาบานเลยว่าครั้งต่อไปจะไม่มีแบบนี้อีกแน่ๆ
แค่คนเดียวก็คับแน่นพออยู่แล้วแต่นี่เล่นใส่เข้ามาอีกคนแบบนี้กะจะให้ร่างพังกันไปเลยใช่มั้ย
“อืมมมม เป็นไงบ้างจงแดดีไหม”
เพี๊ยะ!
“ดี บะ..บ้าอะไรล่ะ...ฉันคงจะตายแน่ๆ”
จงแดทั้งหงุดหงิดทั้งงอนที่โดนจู่โจมพร้อมกันแบบนี้ ถ้าขยับแรงๆคงได้ตายกันพอดี
“ไม่หรอกใครจะปล่อยให้นางฟ้าตายกันล่ะ
ต้องบอกว่าพวกเราจะทำให้นางฟ้ามีความสุขจนล้นอกมากกว่านะ”
“เซฮุน...อึก..ฉันตีนายไม่ได้แต่อย่าคิดว่าจะไม่ตีนะ”
“ครับ ถ้าเสร็จแล้วจะตีกี่ครั้งก็ได้”
แล้วบทรักที่จงแดคิดว่าคงได้ตายแน่ๆก็เริ่มขึ้น การขยับตัวพร้อมกันที่เชื่องช้านั้นมันทำให้จงแดแทบกรีดร้อง
ถึงมันจะคับแน่นจนคิดว่าขยับไม่ได้ แต่ทุกครั้งที่ดันเข้ามามันจะถูกจุดเสมอ
ร่างกายพวกเราผสานกันราวกับคลื่นทะเลมวนกลมๆที่พัดเข้าฝั่ง
ถึงจะไม่รุนแรงแต่ก็หนักแน่นมีกำลัง
“นี่นายสองคนไม่ทำเกินไปหน่อยเหรอ”
“อะไร....ก็ตกลงกันแล้วนี่ว่านายให้พวกเราในคืนวันท้ายปี
ส่วนนายจะต้อนรับปีใหม่เอง”
“หึ....ถือว่าเก็บเวลาคุ้มค่านะ
โอเคงั้นฉันขอแฟนไปฉลองต้อนรับปีใหม่กันสองคนแล้วกัน”
“เฮ้ๆทีพวกเรานายยังนั่งเป็นหินอยู่ในห้องด้วยเลย”
“ยังไงเราก็เป็นแฟนจงแดเหมือนกันแล้ว
ช่วยทำหน้าที่ของผู้ร่วมสถานะเดียวกันด้วยการรับหน้ากับซอนมีเจ้าของบ้านให้ด้วย”
“......................”
“ฉันยังอดทนดูพวกนายมีความสุขกับจงแดโดยที่ไม่ขัดจังหวะเลยสักครั้ง
เพราะฉะนั้น.......ควรทำตัวดีๆแบบฉันด้วยนะ”
“เหอะ....ให้ได้อย่างนี้สิ แล้วจะกลับกี่โมง”
“บ่ายๆแหละ....พวกนายเล่นรุมลูกแมวของฉันจนหมดแรงนอนสลบไปแล้ว
กว่าจะฟื้นตัวก็คงเช้าอีกวัน”
อี้ชิงมองลูกแมวตัวน้อยของเขาที่นอนหลับตาพริ้มอยู่บนเตียงด้วยความสงสาร
อยากจะเข้าไปยุ่งด้วยหรอกตอนที่ถูกสองแฝดนี่รุม แต่ก็อย่างที่บอกนั่นแหละเวลาของใครของมันอี้ชิงเข้าไปยุ่งไม่ได้ สุดท้ายเลยต้องรอให้ถึงเวลาของตัวเองถึงจะอุ้มเอาลูกแมวไปอาบน้ำ
แปลงขนที่ห้องได้
“โอเคตามนั้น”
อี้ชิงขยับแว่นกลมขึ้นเล็กน้อย
ใช้ผ้าเช็ดตัวผืนใหญ่ปิดตัวจงแดไว้แล้วอุ้มไปที่ประตูเพื่อจะไปที่ห้องของตัวเอง เมื่อเข้ามาแล้วก็วางจงแดไว้บนเตียง
ใช้มือลูบตามใบหน้าด้วยความเอ็นดู คงจะเหนื่อยมากแน่ๆกับสองแฝดนั่น
“อาบน้ำอุ่นๆห่มผ้าหนาๆน่าจะสบายตัวขึ้น”
โชคดีที่ห้องที่ซอนมีจัดไว้ให้อี้ชิงมีห้องน้ำในตัวจึงไม่ต้องลำบากออกมาใช้ห้องน้ำรวมข้างนอก
อี้ชิงจัดการถอดเสื้อผ้าตัวเองจากนั้นก็กลับมาอุ้มจงแดที่ยังนอนหลับอยู่บนเตียงให้เข้าไปอาบน้ำด้วยกัน
“อื้อ ไม่เอา พอแล้ว”
“ฉันก็ไม่ได้จะทำอะไร”
คงเพราะเสียงที่เปลี่ยนไปจึงทำให้จงแดที่ขมวดคิ้วอยู่ค่อยๆลืมตาขึ้นมอง
อี้ชิงเข้าใจแล้วว่าทำไมสองแฝดถึงไม่ค่อยออมแรงกับจงแดนัก
ก็เล่นมองกันด้วยสายตาแบบนี้ถ้าไม่ถูกฟัดหนักก็คงไม่พอใจคนถูกมองแน่ๆ
“อี้ชิงเหรอ ฉันไม่ทำแล้วนะ”
“บอกแล้วว่าไม่ได้จะทำ”
“จริงเหรอ?...นายจะไม่ทำฉันเหรอ”
สรุปแล้วอยากให้ทำหรือไม่อยากให้ทำกันแน่ห๊ะ คิมจงแด
แล้วมาทำสายตาแบบนั้นอี้ชิงคนนี้จะหมดความอดทนแล้วนะ
“ทำไมอยากให้ทำ?”
หึ....พฤติกรรมบอกหมดทุกอย่างเลยจงแด ทั้งสายตา
ท่าทาง ยิ่งกัดปากแบบนั้นมันบอกหมดแล้วว่าอยากให้ทำ
“อ๊ะ...นายถอดแว่นแล้วนี่”
อี้ชิงหลุดหัวเราะเบาๆหลังจากที่ลูกแมวใช้นิ้วชี้มาที่ใบหน้าพร้อมกับทำหน้าตกใจตอนที่แว่นสายตาหายไปจากใบหน้าแล้ว
ถึงสายตาจะไม่ได้สั้นมากนักแต่อี้ชิงชอบที่จะใส่แว่นสายตามากกว่า
เพราะมันช่วยซ่อนความเจ้าเล่ห์ในสายตาเจ้าตัวได้ดีมากๆ
“กำลังจะอาบน้ำ
ก็ต้องถอดแว่นอยู่แล้ว”
“อ๋า...อย่างนี้นี่เอง”
จงแดพยักหน้าก่อนจะค่อยๆลอบมองใบหน้าอี้ชิงให้ชัดๆ
มันดูตลกมากทั้งๆที่ตัวเองก็สายตาปกติแต่ดันมาจ้องหน้าอี้ชิงเหมือนกับพวกสายตาสั้น
“ดวงตานาย....มันดูซ่อนอะไรไว้หลายอย่างเลย....ฉันชอบจัง”
“อยากจะเตือนไว้นะจงแด
ว่าถ้ายังไม่อยากให้ฉันทำตอนนี้ก็ไม่ควรพูดอะไรให้ตัวเองเสี่ยงต่อการถูกกระทำ”
“>////<”
ให้ตายเถอะ
อี้ชิงต้องหักห้ามใจอีกเท่าไหร่กับการยังไม่ทำอะไรจงแดในตอนนี้
ยิ่งพูดยิ่งอยู่ใกล้ก็ยิ่งอยากสัมผัส
และทางเดียวที่มันจะทำให้อารมณ์ในกายเย็นลงคงเป็นสายน้ำจากฝักบัว
เมื่อความอุ่นของน้ำที่ปรับอุณหภูมิแล้วไหลรดร่างกายมันก็ทำให้อี้ชิงสงบสติตัวเองได้มากขึ้น
และจงแดก็เลิกจ้องหน้าแล้วเงียบเสียงลง ความเงียบที่ชวนเขินอายน่าอึดอัดนี้มันถูกเติมเต็มด้วยเสียงน้ำไหลและเสียงของน้ำที่ลูบไล้ผ่านไปตามร่างกาย
จงแดดูน่ารักมากๆในเวลาที่ยืนนิ่งๆให้อี้ชิงอาบน้ำให้ และไม่แปลกที่อี้ชิงจะแอบเอาเปรียบบ้างเป็นบางคราว
อุ่นจัง.......
จงแดขยับตัวเบียดเข้าหาความอุ่นนี้และยิ้มออกมาเมื่อหามุมที่เหมาะได้แล้ว
ถึงหมอนข้างอันนี้จะไม่นุ่มนิ่มเหมือนหมอนข้างปกติแต่พอกอดแล้วมันอุ่นกว่ามาก
เอ๊ะ.....ทำไมหมอนข้างถึงมีมือซุกซนแถมตอนนี้ก็ยังลูบสะโพกจงแดอยู่ด้วย
พอจะขยับตัวถอยห่างหมอนข้างที่ว่าก็ขยับตามแถมยังมานัวเนียจงแดอีกด้วย...นี่คงไม่ใช่หมอนข้างแล้วล่ะ
พอลืมตาขึ้นดูก็เห็นว่าใบหน้าของอี้ชิงอยู่ใกล้นิดเดียว
รอยยิ้มที่ดูอบอุ่นนั้นไม่น่าไว้ใจเลย
“ตื่นแล้วเหรอจงแด”
“อะ...อือ ตอนนี้กี่โมงแล้ว”
ถึงจะไม่อยากตื่นแต่เมื่อถูกรบกวนแบบนี้จงแดก็ควรที่ถามเวลาว่ามันกี่โมงแล้ว
เกือบลืมไปเลยว่าวันนี้มันเป็นวันเริ่มต้นใหม่ของปีไปแล้วเมื่อคืนก็ไม่ได้อยู่เค้าท์ดาวน์กับเพื่อนเลย
“ตี5”
“อา.....วันนี้ก็เป็นวันที่1มกราแล้วสิ ถ้าอย่างนั้น
Happy New Year นะอี้ชิง”
“อือ Happy New Year จงแด”
อี้ชิงยิ้มตอบกลับมาพร้อมกับมอบจูบต้อนรับต้นปีให้กับจงแด
จูบที่สามกับคนที่สามให้ความรู้สึกต่างอีกแล้ว เริ่มแรกจูบครั้งนี้ให้ความรู้สึกละมุนเมื่อตอนริมฝีปากแตะถึงกันจากนั้นแปรเปลี่ยนเป็นเรียกร้องมากยิ่งขึ้นราวกับจะสูบเอาลมหายใจไปจนหมด
สองมือจงแดปัดป่ายไปตามร่างกายสมส่วนของแฟนชาวจีนและก็ได้รู้ว่าตั้งแต่เมื่อคืนเราทั้งคู่ไม่ได้สวมใส่เสื้อผ้าเลยสักชิ้น
สองขาแยกออกตามสัญชาติญาณเพื่อให้อีกฝ่ายได้ใกล้ชิดมากยิ่งขึ้น
ครั้งนี้แทบไม่ต้องปลุกปั่นอารมณ์เลยด้วยซ้ำเพราะเหมือนร่างกายจงแดจะถูกอีกฝ่ายลวนลามมานานพอที่จะรู้สึกตื่นตัวแล้ว
อี้ชิงก็เช่นกัน เพราะแท่งเนื้อของเราทั้งคู่ตั้งชันและเสียดสีกันเวลาที่เราขยับตัว
จงแดบอกไม่ถูกว่าอี้ชิงเป็นคนแบบไหนเพราะเจ้าตัวจะเริ่มจากนุ่มนวลก่อนแล้วค่อยๆเพิ่มความรุนแรงดุดันขึ้นเรื่อยๆ
ตามตัวที่มีรอยแดงอยู่บ้างแล้วก็ได้รอยมาเพิ่มจากอี้ชิง
และบางครั้งจงแดก็ถูกกัดจนเป็นรอยฟัน
แต่ไม่ได้รู้สึกเจ็บหรอกนะค่อนข้างจะตกใจมากกว่าเวลาที่ฟันขบกัดลงตามเนื้อหนัง
“อื้ออออออ”
จงแดเกร็งหน้าท้องเมื่อลิ้นของอี้ชิงเลียวนที่แอ่งสะดือ
ใช้สองมือดันไหล่หนาให้ขยับออกห่าง
ปลายเท้าจิกลงบนเตียงแล้วดันสะโพกขึ้นเพื่อถดหนี
แต่มันก็ช่วยอะไรไม่ได้เมื่ออี้ชิงใช้มือจับเอวของจงแดเอาไว้
เมื่อพอใจแล้วก็เปลี่ยนใช้ลิ้นเลียตามเรียวขาจากหัวเข่าเข้ามาด้านในจนถึงช่องทาง
จงแดต้องกำผ้าปูที่นอนแน่นเมื่อลิ้นแตะถูกจุดนั้น ยิ่งจงแดดิ้นมากเท่าไหร่อี้ชิงก็ดูจะชอบใจมากขึ้นเท่านั้นแถมยังใช้ลิ้นกระตุ้นมันเร็วๆอีก
จงแดต้องหอบหายใจเข้าเร็วๆเพื่อช่วยลดความเสียวซ่านลงแต่มันก็ไม่ช่วยอะไรเลย
มีแต่เพิ่มมากขึ้นมากขึ้นจนต้องร้องขอออกมา
“พอแล้ว...อ๊า....มันสะ..เสียว...อื้ออออออ”
เหมือนคำขอร้องนั้นจะได้ผลเพราะอี้ชิงหยุดใช้ลิ้นกับตรงนั้นสักที
จงแดหายใจเข้าลึกๆเหลือบมองอี้ชิงที่ตอนนี้ลุกขึ้นนั่งแล้ว สีหน้าหงุดหงิดของอีกฝ่ายทำให้จงแดต้องแก้ตัวออกมา
“ก็ฉันทนไม่ได้นี่”
“ไม่ใช่เพราะเรื่องนี้หรอกขืนทำต่อนายคงได้ปล่อยแน่ๆซึ่งฉันไม่อยากให้มันเป็นแบบนั้น”
“แล้วทำไมต้องทำหน้าแบบนั้นด้วยล่ะ”
“หงุดหงิดสองแฝดนิดหน่อย”
“ทำไมล่ะ”
“ตรงนี้......”
“โอเคห้ามพูดฉันเขิน”
จงแดห้ามอี้ชิงเอาไว้ก่อนจะพูดจบเพราะรู้ว่าอีกฝ่ายหมายถึงอะไร
ซึ่งพอเห็นอาการของจงแดแล้วอี้ชิงก็หลุดยิ้มออกมา โน้มกายทาบทับพร้อมกับสอดแขนช้อนใต้ร่างแล้วพลิกตัวเปลี่ยนให้จงแดอยู่ด้านบน
จับขาตรงข้อพับแล้วดึงเพื่อให้จงแดลุกขึ้นนั่ง
มือก็คอยบีบเค้นก้นแอปเปิ้ลของจงแด ไปด้วย
เพียงแค่มองตาก็รู้แล้วว่าอีกฝ่ายต้องการอะไร
จงแดใช้นิ้วของตัวเองเป็นตัวช่วยเพื่อผ่อนคลายตามที่เซฮุนเคยทำให้เมื่อคืนวาน
แต่เพราะมันไม่มีเจลหล่อลื่นมันถึงยากและเจ็บ จนต้องเบ้หน้า
“เจลอยู่ในลิ้นชัก เดี๋ยวฉันทำให้”
อี้ชิงขยับลุกกึ่งนั่งกึ่งนอนเอี้ยวตัวไปเปิดลิ้นชักแล้วหยิบเอาขวดเจลหล่อลื่นออกมา
โดยที่มีจงแดนั่งอยู่บนตัก
เมื่อได้ของแล้วก็เปิดฝาแล้วเทใส่มือจากนั้นก็ใช้มันเพื่อเป็นตัวช่วยในการเตรียมความพร้อม
“อื้ออออ ทำไมมี”
“หืออออ”
“ทำไมมีของแบบนี้อยู่กับตัว”
มันอดที่จะแปลกใจไม่ได้
ตั้งแต่สองแฝดแล้วที่มีอุปกรณ์ครบทุกอย่าง
ทำเหมือนกับเตรียมไว้พร้อมแล้วสำหรับเรื่องแบบนี้
“ก็รู้คำตอบอยู่แล้วนี่”
“แล้วถ้าเกิดว่าฉันไม่ยอมล่ะ”
“ไม่มีทาง.....นอกจากนายจะเป็นนางฟ้าของสองแฝดแล้ว
นายยังเป็นลูกแมวของฉันอีกด้วย พวกเรารู้จักนายดีกว่านายรู้จักตัวเองอีกจงแด”
“อ๊า” จงแดสะดุ้งเมื่อนิ้วที่อยู่ในตัวกดย้ำเข้ามาแบบรวดเดียว
“นายพร้อมแล้ว”
“ถุงล่ะ นายไม่มีเหมือน....”
“ไม่..เพราะฉันคิดว่าฉันจะไม่ใส่”
อี้ชิงคงรู้ว่าจงแดจะต้องไม่ยอมแน่ๆเจ้าตัวถึงจับแท่งเนื้อสอดใส่ช่องทางแล้วกดเอวจงแดให้กลืนกินมันทั้งหมด
เพี๊ยะๆๆๆๆ
“นิสัยไม่ดี”
คงเป็นคำต่อว่าที่น่ารักที่สุดในโลกแล้วสำหรับอี้ชิง
น้ำตาเม็ดเล็กๆที่ซึมออกจากทางหางตามันช่างน่าเอ็นดูจนต้องใช้ลิ้นเลียเพื่อซับน้ำตาให้
จงแดหน้างอไม่พอใจ แต่อี้ชิงก็เปลี่ยนจากหน้างอเพราะงอนให้กลายเป็นหน้างอเพราะอย่างอื่นแทน
เมื่ออี้ชิงขยับเอวสวนขึ้นเริ่มจากเนิบๆช้าๆมือก็จับเอวบางเอาไว้
จงแดวาดแขนโอบกอดรอบคอใบหน้าชิดกับอี้ชิงทำให้จมูกคลอเคลียอยู่แถวๆแก้มนิ่ม
ไม่นานอี้ชิงก็ปล่อยให้จงแดเป็นคนขยับเองโดยที่ใช้มือคอยควบคุมเอวบางอีกที
ผนังอ่อนนุ่มภายในตัวจงแดรัดแน่นจนแทบอยากจะกระแทกแกนกายเข้าไปเองตามใจชอบ
เข้าใจแล้วว่าทำไมสองแฝดมันถึงได้รุนแรงนักเพราะอี้ชิงตอนนี้ก็แทบทนนุ่มนวลต่อไปไม่ไหวอีกแล้ว
เสียงร้องของจงแดมันยิ่งปลุกให้อารมณ์กามในตัวให้ตื่นขึ้นมา อี้ชิงละมือออกจากเอวบางข้างหนึ่ง
แล้วใช้แขนเท้ายันกับเตียงทางด้านหลังก่อนจะเริ่มสวนสะโพกขึ้นรับกับจงแดที่กระแทกตัวลงมา
จงแดจิกเล็บลงที่ไหล่จนอี้ชิงรู้สึกเจ็บ
เสียงร้องที่ได้ยินสลับกับเสียงหายใจเริ่มดังขึ้น
สุดท้ายจงแดก็ปล่อยให้อี้ชิงเป็นคนควบคุมเกมส์กระแทกตัวเข้าใส่ตามใจ ยิ่งจงแดใกล้จะถึงปลายทางผนังนุ่มยิ่งตอดรัดถี่ๆ
ในเฮือกสุดท้ายอี้ชิงละแขนที่ใช้เท้ายันมาจับเอวแล้วให้จงแดเอนตัวนอน
จากนั้นก็ตบสะโพกรัวๆเสียงร้องดังขึ้นก่อนที่ร่างของจงแดจะปลดปล่อยออกมา
ส่วนอี้ชิงก็ปลดปล่อยตามไปติดๆกดตัวตอนเอาไว้ปลดปล่อยน้ำกามจนหมด แล้วค่อยขยับเข้าออกสองสามครั้งก่อนจะถอนกายออก
น้ำสีขาวขุ่นไหลออกมาหลังจากที่ถอนกายออกไป
อี้ชิงมองภาพนั้นพร้อมกับเลียริมฝีปากไปด้วย
ผนังที่ยังปิดไม่สนิทนั้นชวนให้คิดทะลึ่งได้ตลอดเวลาจริงๆ
จงแดเองก็คงรู้ว่าอี้ชิงคิดอะไรถึงได้หุบขาที่แยกออกกว้างแล้วนอนตะแคงข้างเพื่อไม่ให้มอง
"แล้วต้องทำยังไงกับน้ำพวกนี้ที่อยู่ข้างใน"
จงแดถามขึ้นทั้งๆที่นอนตะแคงข้างให้
ใบหูแดงจนลามไปตามตัวเหมือนกุ้ง พอรู้ตัวว่าถูกมองก็ยิ่งคดคู้นอนกอดตัวเอง
อี้ชิงไล่สายตาจากใบหน้าลงมาที่ลำตัว เอวบาง และจบที่ก้นงอนๆที่หันข้างให้
ก่อนจะใช้นิ้วกรีดไปตามร่องแล้วกดนิ้วเข้าไปในช่องทางชุ่มที่เต็มไปด้วยน้ำขาวขุ่น
"เราก็ต้องเอาออกแบบนี้"
นิ้วที่อยู่ภายในหมุนวนแล้วงอจากนั้นก็ดึงออกมา
จงแดหลุดเสียงครางเบาๆตอนที่อี้ชิงทำแบบนั้น อี้ชิงนึกขอโทษจงแดอยู่ในใจก่อนจะขยับตัวเองไปนอนซ้อนทางด้านหลังของจงแด
แล้วสอดใส่แท่งเนื้อแทนนิ้วที่ใช้สอดเข้าไปก่อนหน้านั้น
จงแดสะดุ้งนิดหน่อยแต่ก็ยอมนอนนิ่งเพื่อให้อี้ชิงดำเนินบทรักต่อไป
ก๊อก ก๊อก
"อี้ชิง อี้ชิง ตื่นหรือยัง"
"อะ...อื้อ...อี้...ชิง...มีคน อ๊า..มา"
เสียงจงแดขาดๆหายๆไปเมื่อต้องรับแรงกระแทกจากอี้ชิงที่โถมเข้าใส่ไม่ยั้งทั้งๆที่มีเสียงคนเคาะประตูเรียกจากทางด้านนอก
ยิ่งเสียงเคาะประตูรัวเร็วมากเท่าไหร่ความกังวลของจงแดก็มีมากเท่านั้น
ก็ถ้าเกิดคนที่อยู่ข้างนอกประตูนั่นเปิดเข้ามาเจอ
จงแดก็ไม่รู้ว่าจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน
ก็ตอนนี้ทั้งจงแดและอี้ชิงกำลังทำเรื่องอย่างว่ากันอยู่นี่นา
แถมคนทำอย่างอี้ชิงก็ไม่คิดว่าจะหยุดตอบอีกฝ่ายกลับไปเสียด้วย
มีแต่จะยิ่งแรงและรัวเร็วใส่มากกว่า
เสียงเตียงขยับจนจงแดกลัวว่ามันจะดังออกไปพอๆกับเสียงร้องที่พยายามแล้วแต่ก็ยังเล็ดรอดออกไปจนได้
แล้วสภาพเตียงนอนก็เละจนจำภาพเดิมที่มันเคยปูเรียบๆไว้ไม่ได้แล้ว
อีกทั้งยังเลอะและเต็มไปด้วยน้ำสีขาวหลายจุด
เมื่อพูดแล้วอี้ชิงยังไม่หยุดจงแดจึงต้องใช้มือเพื่อช่วยไม่ให้อีกฝ่ายขยับ
ซึ่งนั่นยิ่งทำให้อี้ชิงยิ้มมุมปากแล้วเร่งเอวขึ้นไปอีก
"ชิงงงงงงงง"
"ร้องอีกสิจงแด ร้องเลย"
"ม่ายยยยยย"
"หึหึ"
ก๊อกๆก๊อกๆ กึกๆกึกๆ
คราวนี้ไม่ใช่แค่เสียงเคาะอีกแล้วแต่ตามมาด้วยเสียบบิดลูกบิดประตู
นั่นยิ่งทำให้จงแดแทบอยากจะร้องไห้
คนที่เปิดประตูเข้ามาต้องตกใจแน่กับทาของเราในตอนนี้
ขาจงแดอยู่บนไหล่อี้ชิงช่วงล่างเราก็ขยับเข้าหากันไม่หยุด......ฮือออออออออ
ใครก็ได้ช่วยอย่าให้คนคนนั้นเปิดเข้ามาเลย
"รู้ไหมยิ่งนายกลัว ตรงนั้นนายมันยิ่งรัดแน่น
จนมันทำให้ฉันอดที่จะตื่นเต้นไปกับนายไม่ได้"
อี้ชิงพูดเสียงกระเส่าทั้งๆที่เอวก็ยังไม่หยุดกระแทกเข้ามา
จงแดยากจะต่อว่าจริงๆทั้งๆที่มีคนเคาะห้องอยู่แท้ๆแต่กลับไม่รู้สึกอะไรเลย
แต่ดันมาตื่นเต้นเพราะเรื่องแบบนี้เนี่ยนะ
"หมอนั่นตื่นลงไปวิ่งนานแล้ว"
"ใช่ ตื่นนานแล้ว เธอมีอะไรเหรอ?"
เหมือนสวรรค์จะได้ยินคำขอร้องของจงแดนะ
ท่านถึงได้ส่งแฟนคู่แฝดให้มาช่วยแก้ไขสถานการณ์ตอนนี้ได้ และนั่นก็ทำให้จงแดรู้ว่าใครเป็นคนมาเคาะประตูกันแน่
"อย่างนั้นเหรอฉันว่าจะมาตามไปทานอาหารเช้า
แล้วนี่พวกนายเห็นจงแดบ้างไหม คยองซูเพื่อนหมอนั่นตามหาตั้งแต่เช้าแล้ว"
"ไม่เห็น/ไม่เห็น"
สองแฝดตอบพร้อมกัน
หลังจากนั้นจงแดก็ไม่ได้ยินเสียงคนพวกนั้นคุยกันอีก น่าจะเดินลงไปชั้นล่างกันหมดแล้ว
"หึหึ"
เสียงหัวเราะของอี้ชิงทำให้จงแดหันกลับมาสบตาจากนั้นก็ฟาดมือเข้าที่หน้าท้องแรงๆ
เพราะความขี้เล่นของอี้ชิงแท้ๆเกือบทำให้ซอนมีจับได้แล้วว่ากำลังแอบมีอะไรกันในห้องนี้
"นิสัยไม่ดี"
สุดท้ายจงแดก็ได้แค่ต่อว่าด้วยคำเดิมๆและอี้ชิงก็ยิ้มรับแบบเดิมๆแค่นั้น
เฮ้ออออออสรุปแฟนสามคนของจงแดต่างคนก็ต่างสไตล์กันอย่างนั้นเหรอ
แล้วแบบนี้จะไหวไหมเนี่ยกับการรับมือกับพวกเขาทั้งสามคน
....................................................................
HAPPY NEW YEAR 2018 KA ^^